แทงมวยออนไลน์

สำหรับยุคที่มวยสากลอาชีพของไทยรุ่งเรือง ใครมีเข็มขัดแชมป์โลกอยู่ในประเทศไทยพร้อมกันถึง 3 เส้นด้วยกัน เส้นแรกอยู่ที่ เขาทราย แกแล็คซี่ เส้นที่สองอยู่ที่ สามารถ พยัคฆ์อรุณ และอีกเส้นหนึ่งอยู่กับสด จิตรลดา เรียกได้ว่าในตอนนั้นน่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจแฟนมวยบ้านเราเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีนักมวยเก่งๆ ให้ชื่นชมมากมาย แต่วันนี้ในบทความนี้เราจะพูดถึงนักมวยที่มีลีลาฟุตเวิร์คที่สวยงาม และการแย๊บของหมดที่คมมากคนหนึ่ง งั้นเราไปดูเส้นทางการก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ของสด จิตรลดา กันดีกว่าครับ

ประวัติเริ่มต้นของ สด จิตรลดา ก่อนที่จะโด่งดังจนเป็นแชมป์โลก 

สด จิตรลดา หรือชื่อจริงว่า เชาวลิต วงศ์เจริญ ชื่อเล่น เชาว์ การเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 เป็นคนตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดย สด จิตรลดา นั้นเป็นคนมุสลิมมาตั้งแต่กำเนิด การศึกษา จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในขณะมนุษยศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนักมวยไม่กี่คนที่เรียนจบในระดับนี้ โดยมีประวัติการชกทั้งหมด 29 ครั้ง ชนะทั้งหมด 23 ครั้ง โดยเป็นการชนะน็อคทั้งหมด 14 ครั้ง แพ้ 4 ครั้ง และเสมอ 1 ครั้ง 

การเริ่มต้นในอาชีพนักมวยกับการเป็นนักชกมวยไทย

ก่อนจะมาเป็น สด จิตรลดา นั้นได้ใช้ชื่อในวงการมวยไทยว่า “ชวลิตศิษย์ พระพรหม” โดยมีประวัติการชกมวยไทยมาอย่างโชกโชน ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนักชกมวยสากลสมัครเล่น ซึ่งในตอนนั้น สด จิตรลดา เคยได้แชมป์ในรุ่นฟลายเวทในปี พ.ศ. 2523 ที่จังหวัดขอนแก่น โดยชื่อของ สด จิตรลดา นั้นได้มาจากการตั้งชื่อของผู้จัดการ “บิ๊กอึ่ง” สหสมภพ ศรีสมวงศ์ ในตอนนั้นสหสมภพศรีสมวงศ์ ได้ทำการปั้นนักมวยคนหนึ่งชื่อ มันส์ ส.จิตรพัฒนา แลชื่อของมันส์นั้นได้ติดอันดับของสภามวยโลกในขณะนั้น แต่พลาดท่ามันส์ กลับพ่ายแพ้ให้กับอดีตแชมป์โลกอย่าง เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ ทำให้พวกผู้สนับสนุนต่างพากันไม่มั่นใจในฝีมือ และมันส์ก็เลิกชกมวยไปในที่สุด แต่ชื่อของเขานั้นยังติดอยู่ในอันดับโลกอยู่ สหสมภพ ศรีสมวงศ์ จึงได้ใส่ชื่อของสดเข้าไปแทนเป็นชื่อ มันส์ ส.จิตรลดา ต่อมาการจัดอันดับของ WBC ได้เปลี่ยนไปจนเหลือเพียง ส.จิตรลดา ต่อมาภายหลังผู้สนับสนุนถึงได้ขอทำการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งให้กลายเป็น สด จิตรลดา อย่างไนทุกวันนี้ 

การเข้าสู่วงการมวยสากลอาชีพจากแรงผลักดันของผู้สนับสนุน

ในตอนนั้นประสบการณ์ในการชกมวยสากลของ สด จิตรลดา มีเพียง 3 ไฟต์ เท่านั้น แต่สดก็สามารถสร้างชื่อให้ตัวเองเข้าไปอยู่ใน WBC ในรุ่นจูเนียร์ฟลายเวทได้สำเร็จ จนได้รับการติดต่อให้ขึ้นชกกับนักมวยมากประสบการณ์ชาวเกาหลีใต้อย่าง ซัง ซ็อน กู แม้ว่า สด จิตรลดา จะมีประสบการณ์ในการชกเพียงไม่กี่ครั้งแต่ในการชกครั้งนี้ สด ทำได้ดีกว่า เป็นฝ่ายเดินหน้าไล่บี้ ซัง ซ็อน กู จนหน้าตาแตก และเกือบจะชนะน็อคได้ถ้าไม่มีกรรมการมาเตะตัดขาถ่วงเวลา แต่เมื่อผลออกมากลับเป็นสดที่แพ้คะแนนไป แต่ถึงจะแพ้เมื่อผู้สนับสนุนมองเห็นแววของสดที่เห็นว่าน่าจะมีแววในการชกมวยสากลอาชีพต่อไปได้เขาจึงได้รับการสนับสนุนต่อไปอย่างจริงจัง

สด จิตรลดา แชมป์โลกคนที่ 8 ของประเทศไทย

และหลังจากนั้น สด จิตรลดา ก็ได้ทำการต่อยอุ่นเครื่องเพื่อนเพิ่มประสบการณ์อีก 2 ไฟต์ ก่อนที่จะได้ขึ้นชกชิงแชมป์โลกของ WBC ในรุ่นฟลายเวท กับนักมวยชาวเม็กซิกัน กาเบรีล เบอนัล โดยการชกจัดขึ้นที่ประเทศไทย ที่อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ และในครั้งนี้นั้น สดจิตรลดาก็ไม่ทำให้แฟนมวยชาวไทยผิดหวังอีกต่อไป คว้าแชมป์โลกมาไว้ในประเทศไทยได้สำเร็จ นับเป็นแชมป์โลกคนที่ 8 ของประเทศไทย ซึ่งในตอนนั้นมีทั้ง เขาทราย แกแล็คซี่  และ สามารถ พยัคฆ์อรุณ ที่ทำได้ 

ปัญหาทางด้านสายตา และความสดของร่างกายจนต้องแขวนนวมในที่สุด

หลังจากนั้นสดได้มีโอกาสขึ้นชกป้องกันแชมป์ 6 สมัย และสามารถป้องกันได้ทั้ง 6 ครั้ง จนมาใส่เข็มขัดแชมป์ให้กับ คิม คง ยัง นักมวยชาวเกาหลี ที่เมืองโซล ประเทศเกาหลีใต้ แต่ในปีต่อมาสดได้มาทวงเอาเข็มขัดแชมป์จาก คิม คง ยัง คืนได้สำเร็จ นับเป็นการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 มาครองได้ สดจึงกลายเป็นแชมป์โลก 2 สมัย และต่อมาสดได้มีโอกาสป้องกันแชมป์กับนักมวยรุ่นน้องชาวไทยอย่าง เมืองชัย กิตติเกษม เซียนมวยต่างพากันคิดว่าสดน่าจะเอาชนะได้ไม่ยาก แต่เอาเข้าจริงแล้วสดซึ่งร้างเวทีมาเป็นเวลานานแล้วไม่ค่อยได้ชก โดนเมืองชัย กิตติเกษม ชนะน็อกไปได้แบบพลิกความคาดหมาย และอีกครั้งที่สด ได้มีโอกาสแก้มือกับ เมืองชัย กิตติเกษม ผลก็ยังออกมาเป็นแบบเดิม ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สดเหมือนเดิมและปัญหาทางด้านสายตา ทำให้ตัวเขาตัดสินใจแขวนนวมปิดตำนานสด จิตรลดาไปในที่สุด

นี่เป็นอีกหนึ่งนักมวยแห่งยุคที่ขึ้นชกเมื่อไหร่ได้ใจแฟนมวยเมื่อนั้น ด้วยลีลาการฟุตเวิร์คที่สวยงามและหมัดที่คมกริบราวกับใบมีด แม้ว่าสดจิตรลดาจะแขวนนวมไปแล้ว แต่ในปัจจุบันนั้นสดก็ยังได้ทำการเปิดค่ายมวยโดยสอนศิลปะป้องกันตัว และเชิงมวย กลับคนที่ต้องการจะเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัว เจอนักมวยรุ่นใหม่ที่ต้องการก้าวมาเป็นตัวแทนของประเทศต่อไป 

ใส่ความเห็น